#สยามคูโบต้า ชูบทบาทเทรนด์เซ็ตเตอร์การเกษตรยั่งยืน ลุยต่อ ขยายความรู้นวัตกรรมเกษตร ทดแทนการเผา จับมือ “ลำปาง” สร้างเมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ #NetZeroEmission
กรุงเทพฯ 22 สิงหาคม 2568 - #บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ลุยต่อแผน #KUBOTA NET ZERO EMISSION มุ่งมั่นสร้างโลกเกษตรที่ยั่งยืน ขยายองค์ความรู้เกษตรปลอดการเผา สู่นโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์ จับมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของจังหวัดลำปาง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ “ลำปาง เมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ Net Zero Emission" เป็นจังหวัดที่ 13 ดึงองค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจร แก้ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในภาคการเกษตร ตลอดจนบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
นายรัชกฤต สงวนชีวิน ผู้จัดการฝ่าย Sustainability Development บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นประเด็นภาวะโลกร้อน สภาพอากาศแปรปรวน ไปจนถึงมลพิษในอากาศอย่าง “ฝุ่นละออง PM 2.5” ซึ่งพบว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเผาในพื้นที่การเกษตร สยามคูโบต้าจึงได้ดำเนินกิจกรรมโซลูชันเกษตรปลอดการเผาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อรณรงค์และพัฒนากระบวนการผลิตโดยวิธีการทำเกษตรปลอดการเผา ตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วัสดุเหลือใช้หลังการเก็บเกี่ยว เช่น ฟางข้าว ตอซังข้าว และใบอ้อย ด้วยการนำเอานวัตกรมเครื่องจักรกลการเกษตรและองค์ความรู้ด้านการเกษตร ภายใต้องค์ความรู้ KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจรมาปรับใช้ รวมถึงร่วมกันบูรณาการกิจกรรม Net Zero Emission หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ผ่านโซลูชันการเกษตร อย่างการสนับสนุนการทำนาเปียกสลับแห้งลดการขังน้ำ
ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2563 ได้จัดกิจกรรมรณรงค์และสัมมนาโครงการฯ รวมถึงดำเนินการจัดลงนามความร่วมมือโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) ไปแล้ว 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดราชบุรี จังหวัดเชียงราย จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดหนองคาย จังหวัดเลย และจังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้ลดจุดการเผาในภาคการเกษตรในจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังสร้างรายได้และคืนสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้พี่น้องเกษตรกร สยามคูโบต้าจึงได้ต่อยอดความสำเร็จมายังจังหวัดลำปางเป็นจังหวัดที่ 13 ทั้งนี้เรามุ่งหวังยกระดับโครงการเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) สู่เป้าหมาย KUBOTA NET ZERO EMISSION มุ่งมั่นสร้างโลกเกษตรที่ยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์ อย่างไรก็ดียังมีการเร่งศึกษาทดลองนวัตกรรมและเทคโนโลยี และโซลูชันการเกษตรต่างๆ เพื่อทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้าน นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ภาคการเกษตรมีความสำคัญต่อการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของจังหวัดลำปาง เนื่องจากจังหวัดมีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมดกว่า 1.7 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 22.74 ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พืชไร่ นาข้าว ไม้ยืนต้น สำหรับประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของจังหวัดลำปาง ที่ผ่านมาได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม โดยได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ รณรงค์ ส่งเสริมให้มีการลดการเผาในพื้นที่เกษตร และบูรณาการเครือข่ายหยุดเผา ภายใต้แนวทาง 3R Model ประกอบด้วย การเปลี่ยนพฤติกรรม Re-Habit ให้ปลูกพืชชนิดเดิมแบบไม่เผา โดยใช้เครื่องจักร ส่งเสริมการแปรรูป และเพิ่มมูลค่าเศษวัสดุทางการเกษตรเพื่อลดการเผา ได้แก่ การไถกลบตอซังและอัดก้อนฟางข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และการจำหน่ายเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่ การเปลี่ยนชนิดพืช Replace with High Value Crops ที่ปลูกบนพื้นที่สูง จากพืชไร่เป็นไม้ผล พืชเศรษฐกิจ/แบบผสมผสาน ที่มีมูลค่าสูง เช่น กาแฟ และการเปลี่ยนเป็นพืชทางเลือก Replace with Alternate Crops เป็นพื้นที่ราบจากพื้นที่นาปรังหรือพื้นที่นอกเขตชลประทาน ให้ปลูกข้าวโพดหรือพืชตระกูลถั่ว ทั้งนี้ในปี 2568 จังหวัดลำปางมีเป้าหมายการลดจุดความร้อน Hot Spot ในพื้นที่การเกษตร ลงร้อยละ 30 จากปี 2567 ผลการดำเนินงานในปี 2568 สามารถลดจุดเผาไหม้ได้ร้อยละ 30.94 เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกัน สะสมเพียง 125 จุด จากปีที่ผ่านมาจำนวน 181 จุด แต่ยังมีเกษตรกรจำนวนมากที่ใช้การเผาเป็นวิธีจัดการเศษวัสดุทางการเกษตร ซึ่งนอกจากจะสร้างมลพิษทางอากาศและปัญหาฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เร่งให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงต้องสร้างความตระหนักถึงผลกระทบ ให้มีการปรับตัว และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีในปัจจุบันต่อไป
จังหวัดลำปาง มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เล็งเห็นความสำคัญในการดำเนินโครงการ มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกัน เพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการทำเกษตรปลอดการเผา (Zero Burn) และนำนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรควบคู่กับองค์ความรู้ด้านการเกษตรมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการเพาะปลูก เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ โครงการยังมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งในจังหวัดลำปางมีโอกาสในการซื้อขายวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น สามารถนำไปจำหน่ายให้กับตลาดเลี้ยงสัตว์ หรือแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลเพื่อส่งโรงไฟฟ้าภายในจังหวัด อันจะช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับเกษตรกรและชุมชน พร้อมก้าวสู่เป้าหมาย “ลำปาง เมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ Net Zero Emission” อย่างเป็นรูปธรรม”
อย่างไรก็ตามสยามคูโบต้ายังคงมุ่งมั่นผลักดันแนวคิดเกษตรปลอดการเผาสู่การสร้าง “เมืองต้นแบบปลอดการเผาสู่ Net Zero Emission” ด้วยการขยายพื้นที่ความร่วมมือของโครงการฯ ในปี 2568 เพิ่มอีก 2 จังหวัด ได้แก่จังหวัดพิจิตร จังหวัดลพบุรี นอกจากนี้ยังมีการผลักดันองค์กรและสินค้าของคูโบต้าให้เป็นองค์กรที่มีนโยบายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนหาแนวทางการแก้ไขประเด็นเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2573 พร้อมขยายผลให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emission ภายในปี 2593 สอดรับกับเป้าหมายแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยและเพื่อดำเนินตามนโยบายคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ในการมุ่งสู่แบรนด์ชั้นนำระดับโลกหรือ Global Major Brand (GMB)
Social Plugin