ชวนมอง 142 ปี #ไปรษณีย์ไทย ขับเคลื่อนด้วยสูตร “1-4-2” เปลี่ยนทุกความท้าทายเป็นโอกาสเติบโต
ในช่วงเวลา 142 ปี ของการเดินทาง “#ไปรษณีย์ไทย” ได้พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจบริการที่ใกล้ชิดผู้คนที่สุด สามารถยืนหยัดและปรับตัวได้ในทุกยุคสมัย เป็นพี่ใหญ่ในตลาดโลจิสติกส์มูลค่าหลายแสนล้านบาท พร้อมยังครองใจคนไทยด้วยคะแนน Top of Mind 99.54% และความไว้วางใจในแบรนด์สูงถึง 96.11% ภายใต้แนวคิด POSTsible Together เป็นไปรฯ ได้ ไปรฯ ด้วยกัน ไปรษณีย์ไทยไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็น ผู้ส่งพัสดุ แต่กำลังวางรากฐานสู่ “Tech Post” ที่พร้อมเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ครึ่งปีแรก 2568 คือบทพิสูจน์สำคัญ ด้วยรายได้รวมกว่า 11,544 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8.88% และมีกำไรสุทธิ 631.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 362.34% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่ทำรายได้กว่า 5,406 ล้านบาท หรือเกือบครึ่งหนึ่ง ของรายได้ทั้งหมด “1-4-2” คือสูตรที่เปลี่ยนทุกความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสที่ไปรษณีย์ไทยเลือกใช้ เป็นเข็มทิศใหม่ เลข “1” คือการเป็นอันดับหนึ่งในใจคนไทย ทั้งด้านคุณภาพ ความเชื่อมั่น และความครอบคลุมของเครือข่ายกว่า 50,000 แห่งทั่วประเทศ “4 พลัง” ประกอบด้วย พลังความเร็ว พลังเพื่อธุรกิจ พลังเชื่อมโลก และพลังความล้ำ ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นบริการจริง ไม่ว่าจะเป็น EMS ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง THP Fulfillment คลังสินค้าสำหรับ SME เครือข่ายการเชื่อมโลกกว่า 193 ประเทศ 205 ปลายทาง รวมถึงบริการใหม่อย่าง Super App Digital Postbox และ D/ID ระบบจ่าหน้าแบบดิจิทัล และ “2 แกนหลัก” ที่ไปรษณีย์ไทยวางไว้ในการเชื่อม “ความสัมพันธ์” และ “ความสำเร็จ” ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เมื่อก้าวสู่จุดนี้บทบาทของไปรษณีย์ไทยจึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงธุรกิจขนส่ง แต่ยังหมายถึงการเป็นกลไกสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล สู่การเป็น Tech Post เต็มรูปแบบ
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันใน “สงครามส่งด่วน” ได้อย่างมั่นคง ไม่ได้อยู่แค่ความเร็วหรือราคา แต่คือ “คุณภาพและความเชื่อมั่น” ที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ไปรษณีย์ไทยจึงย้ำกลยุทธ์ Zero Complain ลงทุนในระบบบริการหลังการขาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ไปรษณีย์ไทยน่าจับตามองคือการผูกพันธกิจด้านธุรกิจเข้ากับเป้าหมายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 4,670 ตันคาร์บอนฯ ด้วยการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านโครงการ Green Hub การพัฒนาเครื่องแบบใหม่ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 53,000 กิโลกรัม การสนับสนุนเกษตรกรไทยผ่านเครือข่ายกว่าและแพลตฟอร์ม ThailandPostMart การเดินเกม “Sustainability” แบบนี้ไม่เพียงเสริมภาพลักษณ์ แต่ยังทำให้องค์กรนี้อยู่ในจุดที่สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความรับผิดชอบต่อสังคมได้อย่างแท้จริง
142 ปี คือหลักฐานว่า “POSTsible Together เป็นไปรฯ ได้ ไปรฯ ด้วยกัน” ไม่ใช่เพียงสโลแกน แต่คือบทพิสูจน์ว่าธุรกิจที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด สามารถปรับตัวและก้าวไปสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง และจะ “เป็นไปรฯ ได้ ไปรฯ ด้วยกัน” กับทุกคนในสังคมไทยต่อไป
Social Plugin